นักแข่งดาวรุ่งพุ่งแรงจากออสเตรเลีย #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ผงาดขึ้นคว้าชัยรุ่นเรือยืนที่เร็วและแรงที่สุดในโลก ในศึกวอเตอร์เจ็ตเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก "ดับเบิลยู จีพี วัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์ซีรี่ส์ 2024” สนามเปิดฤดูกาล ระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคม 2567 ณ เมืองออสตรุฟ วาสคิ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งในปีนี้มีนักกีฬา เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 200 คน จาก 30 ประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกา แอฟริกาและ โอเชียเนีย

สนามเปิดฤดูกาลของปีนี้ รุ่น PRO SKI GRAND PRIX นอกจาก #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ อดีตแชมป์เปี้ยน “ดับเบิลยู จีพี วัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์คัพ” 4 สมัยแล้ว ในรุ่นนี้ยังมีดาวรุ่งฝีมือฉกาจอยู่หลายคนโดยเฉพาะ #111 เจเดน ริชาร์ดสัน จากออสเตรเลีย #T4 ธนวินท์ โมลี จากประเทศไทย #27 เซบาสเตียน กิลเรโร และ #300 เจมส์ วิลสัน จากสหรัฐอเมริกา

โมโตที่ 1 เป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสุดมันส์ของ #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ และ #111 เจเดน ริชาร์ดสัน โดยช่วงออกสตาร์ท #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ชิงจังหวะตั้งแต่โฮลช๊อต แต่ #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ ไล่ตามมาติด ๆ แบบหายใจรดต้นคอ แต่สุดท้าย #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ยังคงขับได้อย่างมั่นใจ เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 เก็บ 60 คะแนนแรกไปครอง #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ และ#T4 ธนวินท์ โมลี ตามมาเป็นที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

โมโตที่ 2 #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่อง ถึงแม้จะออกสตาร์ทไม่ดี หล่นไปอยู่อันดับที่ 4 ในขณะที่ #T4 ธนวินท์ โมลี ออกสตาร์ทขึ้นนำ แต่ #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ยังนิ่งและขับได้อย่างมั่นใจ ไล่แซงขึ้นมาจนขึ้นนำ และควบเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 T4 ธนวินท์ โมลี ตามมาเป็นที่ 2

ถึงแม้จะออกสตาร์ทไม่ดี หล่นไปอยู่อันดับที่ 3 ในโมโตที่ 3 แต่ #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ยังคงขับได้อย่างมั่นใจ ค่อย ๆ ไล่แซง #T4 ธนวินท์ โมลี จากประเทศไทยและ #300 เจมส์ วิลสัน จากสหรัฐอเมริกา เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1

ไฟนอลโมโต เป็นการกลับมาของอดีตแชมป์เวิลด์คัพ 4 สมัย ชาวออสเตรีย #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ ถึงจะออกสตาร์ทได้ไม่ดี แต่ยังโชว์ดีกรีแชมป์ ไล่แซง #300 เจมส์ วิลสัน จนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 #111 เจเดน ริชาร์ดสัน ตามมาเป็นที่ 2

สรุปคะแนนรวมทุกโมโต #111 เจเดน ริชาร์ดสัน มี 233 คะแนน คว้าแชมป์ “ดับเบิลยู จีพีวัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์ซีรีส์ 2024” โปแลนด์ กรังปรีซ์ ในรุ่น PRO SKI GRAND PRIX ไปครอง #300 เจมส์ วิลสัน และ #90 เควิน ไรทเทอเรอร์ ขึ้นโพเดียมเป็นอันดับที่ 2 และ 3